บุคคล
ในประวัติศาสตร์อีกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตำนานแวมไพร์อย่างลึกซึ้งได้แก่Erzebet
Bathory ข้อมูลหลายแหล่งกล่าวตรงกันว่าเธอเป็นเคาท์เตสผู้เลอโฉมคนหนึ่ง
ซึ่งทำให้ผู้รับรู้เรื่องราวของเธอต้องตกตะลึง
ในความโหดร้ายของเธอหลังจากที่ได้รับการรายงานเรื่องความโหดร้ายของ เธอ
ในตอนสอบสวนคดี Bathory เมื่อปี 1611 ในฮังการี
Erzebet Bathory ได้สังหารหญิงสาวไปมากกว่า300 นาง จากนั้นจึงนำเอาร่างอันปราศจากลมหายใจของเหยื่อไปใส่ไว้ในโลงที่มีเหล็กแหลม
เพื่อทำการคัดเอาเลือดสดๆของเหยื่อออกมา ผู้ติดตามของ Bathory พากันสารภาพว่าที่เคาท์เตส
แสนสวยทำลงไปเช่นนั้นเพราะต้องการดื่มเลือดสดๆของ เหยื่อ
วันดีคืนดีก็มีการนำมาอาบบ้าง ด้วยเชื่อว่าเลือดสดๆของหญิงสาวจะช่วยรักษาความเยาว์วัยและยืดอายุขัยของเธอ
ออกไปได้
กิจกรรม โหดของ Bathoryต้องสิ้นสุดลง เพราะทางการทนฟังเสียงร้องเรียนจากประชาชนกรณีหญิงสาวหายตัวไปอย่างลึกลับ ไม่ไหว กองทหารเล็กๆกองหนึ่งได้รับคำสั่งลับให้สืบสวนเรื่องนี้โดยด่วน (ผู้นำกองทหารดังกล่าวนี้เป็นญาติของ Bathory เอง) สายสืบรายงานว่าหญิงสาวที่หายไปนั้น ร่องรอยสุดท้ายของพวกเธอมักขาดหายไปบริเวณคฤหาสน์ของเคาท์เตส Erzebet Bathory ภายหลังจากตรวจสอบจนแน่ใจแล้ว ผู้นำกองทหารจึงตัดสินใจบุกเข้าตรวจค้นคฤหาสน์ของเคาท์เตสBathory โดยไม่ต้องอาศัยหมายศาล
พวกเขาต้องตกตะลึงภายหลังจากพังประตูปราสาทเข้าไปแบบไม่บอกกล่าว และพบว่า Bathory และสาวกกำลังประกอบกิจกรรมชนิดไหนกันอยู่ การจับกุมแบบยกแก๊งเกิดขึ้นโดยไม่ต้องมีการสอบสวนเนื่องจากพยานวัตถุมีให้เห็น ตัว Erzebet Bathory เองพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อให้ปล่อยตัวเธอไปแต่ไม่มีใครยอมเล่นด้วย เธอรอดโทษทัณฑ์ประหารชีวิตไปได้เพราะความที่มีเชื้อเป็นเจ้าใหญ่นายโต ถึงกระนั้นการโดนจองจำในห้องขังที่ไม่มีทั้งประตูและหน้าต่างไปตลอดชีวิต ก็ไม่ถือว่าสาสมกับบาปที่ตัวเธอได้ก่อขึ้น Bathory ใช้เวลาที่เหลือจากวันไต่สวนจวบจนสิ้นอายุขัยในห้องขังดังกล่าว
กิจกรรม โหดของ Bathoryต้องสิ้นสุดลง เพราะทางการทนฟังเสียงร้องเรียนจากประชาชนกรณีหญิงสาวหายตัวไปอย่างลึกลับ ไม่ไหว กองทหารเล็กๆกองหนึ่งได้รับคำสั่งลับให้สืบสวนเรื่องนี้โดยด่วน (ผู้นำกองทหารดังกล่าวนี้เป็นญาติของ Bathory เอง) สายสืบรายงานว่าหญิงสาวที่หายไปนั้น ร่องรอยสุดท้ายของพวกเธอมักขาดหายไปบริเวณคฤหาสน์ของเคาท์เตส Erzebet Bathory ภายหลังจากตรวจสอบจนแน่ใจแล้ว ผู้นำกองทหารจึงตัดสินใจบุกเข้าตรวจค้นคฤหาสน์ของเคาท์เตสBathory โดยไม่ต้องอาศัยหมายศาล
พวกเขาต้องตกตะลึงภายหลังจากพังประตูปราสาทเข้าไปแบบไม่บอกกล่าว และพบว่า Bathory และสาวกกำลังประกอบกิจกรรมชนิดไหนกันอยู่ การจับกุมแบบยกแก๊งเกิดขึ้นโดยไม่ต้องมีการสอบสวนเนื่องจากพยานวัตถุมีให้เห็น ตัว Erzebet Bathory เองพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อให้ปล่อยตัวเธอไปแต่ไม่มีใครยอมเล่นด้วย เธอรอดโทษทัณฑ์ประหารชีวิตไปได้เพราะความที่มีเชื้อเป็นเจ้าใหญ่นายโต ถึงกระนั้นการโดนจองจำในห้องขังที่ไม่มีทั้งประตูและหน้าต่างไปตลอดชีวิต ก็ไม่ถือว่าสาสมกับบาปที่ตัวเธอได้ก่อขึ้น Bathory ใช้เวลาที่เหลือจากวันไต่สวนจวบจนสิ้นอายุขัยในห้องขังดังกล่าว
หน้ากลัวอะ
ตอบลบ